15 ปี แห่งความเชื่อมั่นที่เปลี่ยนชีวิตเด็ก
สร้างเด็กเก่งแถวหน้า
Echo Program พัฒนาเด็กด้วยเสียงดนตรี
Echo Program
"พัฒนาเด็กเก่งแบบจับต้อง"

1
บทสรุป
Echo Program ถูกออกแบบมาเพื่อปูพื้นฐานให้เด็กเล็กเรียนรู้ผ่าน “เสียงสะท้อน” โดยเน้นการฝึกตอบสนองต่อจังหวะสั้นๆง่ายๆ ให้เป็นภาพจำในใจ เพื่อสร้างทักษะที่สำคัญในชีวิต เช่น การแยกแยะถูกผิด การยับยั้งชั่งใจ และการทำงานร่วมกับผู้อื่น
“คานงัดเด็กดื้อ"
ซึ่งไม่ได้หมายถึงการ “แก้เด็กดื้อ” ด้วยวิธีทั่วไป แต่คือ โซลูชั่นเฉพาะ ที่ใช้ “วิธีพิเศษที่เรียกว่า
งัดได้ดี” — เป็นกลยุทธ์ที่ออกแบบมาอย่างเหมาะสมกับพฤติกรรมของเด็กวัยเตาะแตะ ที่ต้องการแรงกระตุ้นแบบจับต้องได้ เช่น เสียง,ลื่น,ล้ม,กลิ่น, หรือแรงต้านบางอย่างที่ช่วยให้เด็ก เข้าใจผลลัพธ์ของการกระทำ ได้ด้วยตัวเอง
3 ก. กิจกรรม
ตามโปรแกรมที่เกิดอย่างขึ้นทุกวันนี้ เด็กๆจะ
ค่อย ๆ พัฒนาไปสู่คุณลักษณะสำคัญที่ Echo Program ยึดถือเป็นเป้าหมายหลัก นั่นคือ.....ผลลัพท์ 3 ก. ได้แก่:
-
เก่งเร็ว → เด็กตอบสนองไวขึ้น ทั้งจากภาพที่เห็นและเสียงที่ได้ยิน เชื่อมโยงกับการ กระทำได้เองแบบผิดหรือถูก
-
แกร่ง → หยุดคิดก่อนทำ และรู้จักยับยั้งใจ
-
กล้า → เด็กกล้ารับผลของการกระทำ กล้าลองใหม่โดยไม่กลัวความผิด
2
Rhythm Season
เติมจังหวะให้ชีวิต
ด้วยโปรแกรมที่ออกแบบมาเพื่อเข้าถึงอารมณ์ และความรู้สึกของเด็ก ที่หลงใหลในความสนุกตามธรรมชาติ
- ไม่ต้องอธิบายเยอะ ไม่ต้องบังคับให้เข้าใจ
- ขอเพียงแค่ได้ “ฟัง” และ “เล่น”
เขาจะค่อย ๆ แยกแยะได้ด้วยตนเองว่าเสียง
แบบไหนคือ ความถูกต้องและเสียงแบบไหน คือ สิ่งที่ควรระวัง จากการชี้นำของครู.
- เราใช้จังหวะ เสียงสะท้อน และเกมสร้างภาพจำเพื่อให้เด็กเปิดใจ เชื่อมโยงเสียงกับความหมายที่แท้จริงสร้างภูมิต้านทานทางความคิดด้านลบ ในแบบที่เด็ก ยังรู้สึกว่าตัวเองกำลังเล่นสนุก
❤️🩹
เพราะสำหรับเด็ก…ถ้าได้ยิน เขาก็เรียนรู้ได้

3
Pitch Season
ระบายสีอารมณ์
จังหวะคือเสียงที่“เคลื่อนไหว” ในแนวนอนคือภาพจำเดิม สูง-ต่ำ คือการเคลื่อไหวในแนวดิ่ง บนภาพเดิมจากซีซั่นก่อน “โครงสร้าง” ของดนตรี และพื้นที่ปลอดภัยที่เด็กจะได้เรียนรู้ความคิด ความรู้สึก และความรับผิดชอบของตัวเอง
ในกิจกรรมของ Pitch Season เด็กจะได้ฝึก “ฟังเสียงของตัวเอง”ผ่านกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรม เช่น การรอ การอดทน การหยุดก่อนพูด การเปลี่ยนท่าที หรือแม้แต่การเล่นเสียงเดิมซ้ำ ๆ
“คานงัดเด็กดื้อ”
ถูกนำมาใช้ในอีกมิติ — ไม่ใช่แค่การงัดพฤติกรรม แต่คือการช่วยให้เด็ก “รู้จักตนเอง”เพราะเสียงที่ต้องรับฟังหรือรอจังหวะ
คือการฝึกยับยั้งชั่งใจ
และทั้งหมดคือจุดเริ่มต้นของ “พฤติกรรมเชิงบวก” ในทางปฏิบัติจริง

